เพ็ชร์ในหิน
แฟ้มข้อมูล
ประเภททรัพยากร
ฉบับพิมพ์
จำนวนหน้า/ขนาด
127
หน่วยงานที่เผยแพร่
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิวพร
วันที่เผยแพร่
2512-03
วันที่จดลิขสิทธิ์
ISBN
ISSN
DOI
เลขที่หนังสือราชการ
เลขเอกสาร
หมวดหมู่
เลขเรียกหนังสือ
รหัสบ่งชี้อื่นๆ
แหล่งจัดเก็บต้นฉบับ
บุคคล/หน่วยงานที่จัดส่งเอกสาร
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ลิงก์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เป็นส่วนหนึ่งของ
อ้างอิงโดย
เวอร์ชัน
มีพื้นฐานจาก
แหล่งที่มา
ข้อมูลอ้างอิง
สิทธิ์ในการใช้งาน
สิทธิ์ในการเข้าถึง
เจ้าของสิทธิ์
ข้อมูลอ้างอิง
(1969). เพ็ชร์ในหิน. Retrieved from: https://hdl.handle.net/20.500.14156/592996.
ชื่อเรื่องอื่น
ผู้แต่ง
ผู้แต่ง (หน่วยงาน)
ผู้รวบรวม/ผู้เรียบเรียง
ที่ปรึกษา/อาจารย์ที่ปรึกษา
คณะกรรมาธิการ
ผู้ร่วมงานอื่นๆ
ผู้เสนอ : ชื่อ-นามสกุล
ผู้เสนอ : ประเภทสมาชิก
ผู้เสนอ : พรรคที่สังกัด
ผู้เสนอ : จังหวัดที่สังกัด
วันที่เสนอ
วันที่บรรจุระเบียบวาระ
วันที่ประชุม
ครั้งที่ประชุม
ประเภทการประชุม
ประเภทเรื่องที่ประชุม
สถานะการพิจารณา
ประเภทสภา
มติที่ประชุม
สมัยประชุม
ครั้งที่ของสมัยประชุม
สภาชุดที่
สภาปีที่
หมายเลขกระทู้ถาม
ชนิดของกระทู้ถาม
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : ชื่อ-นามสกุล
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : ประเภทสมาชิก
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : พรรคที่สังกัด
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : จังหวัดที่สังกัด
ผู้ตอบกระทู้ถาม : ชื่อ-นามสกุล
ผู้ตอบกระทู้ถาม : ตำแหน่ง
รัฐมนตรีประจำกระทรวง
กระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ผู้อภิปราย
ประเภทการอภิปราย
หัวข้อการอภิปราย
วันที่อภิปราย
ผู้ชี้แจง
ชื่อปริญญา
ระดับปริญญา
สาขาวิชา
ภาควิชา
ผู้ประสาทปริญญา
เนื้อเรื่องย่อ
สารบัญ
-ทำดีด้วยใจบริสุทธิ์ดีกว่าใจฤษยาอาธรรม์
-ตายเสียด้วยทำความดีประเสริฐกว่าเปนอยู่ด้วยทำความชั่ว
-ความดีฝ่ายโลกแลฝ่ายธรรม
-ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่ไม่สามารถจะทรมานตนได้
-ธรรมดาจิตร์ย่อมผันแปรไปตามอารมณ์
-การสำรวมรักษากายวาจาใจ
-การสำรวมอินทรีย์ทั้ง 6
-เกิดเปนมนุษย์เปนโอกาศอันดี
-ผู้มีอินทรีย์สมบูรณ์พร้อมควรรีบปฏิบัติธรรมเสีย
-เจริญกุศลวิวัฏฏคามีย่อมจะได้สุขสมบัติในโลกนี้ด้วย
-ใครไม่รีบทำความดีเสียแต่ในชาตินี้ก็เหมือนกับคนบ้าบัดซบ
-กิเลศปิดบังความตรัสรู้ไว้
-สงครามในจิตร์
-รักตัวแลรักโลกเปนมูลเหตุแห่งบาป
-ผู้ที่รู้สึกตัวอยู่ว่าไม่รู้ผู้นั้นแหละเปนผู้รู้
-ถ้ารักสิ่งใดจริงก็ต้องยอมเสียชีวิตร์เพราะสิ่งนั้นได้
-เมตตาพรหมวิหาร
-กรุณาพรหมวิหาร
-มุทุตาพรหมวิหาร
-อุเบกขาพรหมวิหาร
-อานิสงส์แห่งจตุพรหมวิหาร
-อานิสงส์แห่งสะมะถะแลวิปัสสนาภาวนา
-อานิสงส์แห่งอริยมัคคอริยผล
ปกหลัง
ปกหน้า
เพ็ชร์ในหิน[กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา]
หนังสือจาก ม.ร.ว. จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต) ลงวันที่ 7 มีนาคม 2512 เรื่อง การพิมพ์หนังสือเรื่อง เพ็ชรในหิน
อารัมภบท
นโมพุทธาย
-ไตรรัตนหรือพระธรรมรัตน
-โลกนั้นคืออารมณ์หรือสิ่งที่ไม่มีใจครอง
-โลก แลธรรมอาศรัยซึ่งกันแลกัน
-สัตว์ แลบุคคลเกิดมีขึ้นเพราะธรรมกับโลกผสมกัน
-แยกกายกับจิตร์ ออกจากกันก็เป็นโลกธรรม
-สัตว์ต้องมีกายหรืออารมณ์กับจิตร์ประสมกันจึงจะเป็นสัตว์ได้
-กายแลจิตร์ประสมกันเปนสองชั้น
-จิตร์กับกายที่ประสมกันตายไม่พร้อมกัน
-โลกทิพย์กับโลกมนุษย์อาศรัยกัน
-สัตว์ในมนุษย์โลกกับทิพย์โลกถ่ายไปมาหากัน
-แบ่งโลกเปน สวรรค์ นรก แลมนุษย์
-มนุษย์ทุกคนมีกายสามชั้น
-มนุษย์ทุกคนต้องไปสู่โลกทิพย์เมื่อตายแล้ว
-อารมณ์ขัดขวางกันเอง
-เมื่ออารมณ์ปรุงกับจิตร์ สัตว์ได้เสวยผลแต่ภายใน เมื่อประกอบกรรมด้วยจึงได้เสวยผลภายนอก
-ไตรวัฏฏ์หรือสังสารทุกข์
-กิเลศกรรมแลวิบากกรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร
-กรรมที่สัตว์ทำถ้ายังไม่ให้ผลก็เปนกรรมภพอยู่ก่อน
-กรรมที่สัตว์ทำมีกำหนดเขตร์ให้ผลสามอย่าง
-กรรมให้ผลตามหน้าที่
-กรรมมีกำลังให้ผลต่างกัน
-ลักษณกุสลากุศลกรรม
-ผลวิบากแห่งกุสลากุศลกรรม
-กิริยาแห่งกุศลากุศลกรรม
-มนุษย์บางคนไปเที่ยวโลกทิพย์ได้
-อมนุษย์แลเทวดาก็มายังมนุษย์โลกได้
-มนุษย์กับอมนุษย์ภายในอยู่โลกเดียวกันความคิดชั่วดีแลกเปลี่ยนแก่กัน
-บัญญัติที่เรียกว่าสัตว์แลพ้นจากสัตว์
-ทุกข์อริยสัจ
-ทุกข์สมุททัยอริยสัจ
-ทุกข์นิโรธ อริยสัจ
-ทุกข์นิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจ
-วิชาแลอวิชาติดอยู่กับจิตร์
-ควรเจริญวิชาหรือความรู้เท่าสังขาร
-เรื่องพระนิพพาน
-อธิบายนิพพานโดยความอุปมา
-จิตร์ที่เปนนิพพานแล้วไม่กลับเปนโลกอีก
-นิพพานออกจากเครื่องร้อยรัด
-นิพพานสูญไม่เกิดอีก
-นิพพานเปนอยู่ไม่รู้ตาย
-นิพพานมีหลายอย่างจะเลือกเอาอย่างใดก็ได้
-อยู่ในโลกเปนทุกข์ควรแสวงหานฤพาน
-หนทางไปสู่นฤพาน
-ผู้ปฏิบัติควรต้องอาไศรยศรัทธาเปนเบื้องต้น
-อธิบายด้วยเรื่องศีล
-อธิบายเรื่องอุปจารสมาธิ
-อธิบายเรื่องอัปปนาสมาธิอย่างรูปฌาน
-อธิบายเรื่องอัปปนาสมาธิอย่างอรูปฌาน
-วิปัสสนา ปัญญา
-ผู้ที่ได้ฌานแล้วเจริญวิปัสสาก็ได้
-โลกุตตรปัญญา
-อธิบายวิถีจิตร์ตามความเห็นของผู้แต่งหนังสือนี้
-วิถีจิตร์กามาพจร
-วิถีจิตร์อัปปนา
-ผู้ได้สมาธิรู้สึกจิตร์ของตนว่าเปนฌานอยู่ภายใน
-มัคควิถี
-ผู้ที่ได้มัคคผลรู้สึกจิตร์ของตนเปนนิพพาน
-อเสขบุคคล
-เสขบุคคล
-ทุกวันนี้พระอริยบุคคลไม่ปรากฏในโลกเสียแล้ว
-ถวายทานแก่พระอริยเจ้าได้ผลมาก
-ปุถุชนไม่เห็นไตรลักษณ์ครบทั้งสามประการได้
-ผู้ปรารถนาพระนิพพานต้องยอมตัวเปนคนยากจน
-ผู้ประสงค์พระนิพพานต้องรีบปฏิบัติธรรม
-ทานศิลภาวนาเปนหนทางวิมุติ์นฤพาน
-อัปปมาทธรรมเปนทั้งปริยัติปฏิบัติแลปฏิเวธะ
-วิมุติ์จิตร์
-พระขีณาสวอรหันต์พ้นจากบุญแลบาป
-บุญกำจัดบาป วิชากำจัดอวิชา
-อริยมัคคเกิดได้เฉภาะ 4 ครั้งในสันดานของบุคคลผู้หนึ่ง นอกนั้นเปนผลจิตร์หรือผลสมาบัติ
-วัฏฏคามีแลวิวัฏฏคามีกุศล
-ผู้ที่ได้มัคคผลฌานสมาบัติต้องปฏิสนธิในปัตยุบันภพด้วยไตรเหตุกะจิตร์
-ไตรยเหตุกะกุศลย่อมมีอาการหน่ายฉากกาม
-ผู้มีความเพียรไม่ควรท้อถอยในทางสัมมาปฏิบัติ
-จะเปนทุกข์หรือพ้นทุกข์ก็เพราะใจอย่างเดียว
-คนใจโลกีย์ไม่เห็นนิพพาน
-นิพพานไม่ใช่จิตร์แต่ก็ไม่ใช่อื่นจากจิตร์
-นฤพานนั้นมีแต่หนึ่งแต่ว่าเปนมากก็ได้
-นฤพานนั้นคิดเห็นไม่ได้แต่ไม่คิดก็เห็นไม่ได้
-ผู้ใดเห็นนิพพานผู้นั้นเป็นพระอริยเจ้า
-จิตร์ที่พ้นจากเกิดแลตาย
-จงตั้งความเพียรทำนฤพานให้แจ้ง
-พระรัตนไตรยเปนที่พึ่งอันเลิศ
-เมื่อได้ทรัพย์สมบัติยศศักดิ์บริวารจงระวังตัวให้ดี
-ยศศักดิ์ทรัพย์สมบัติอยู่กับบัณฑิตย์ย่อมให้คุณถ้าอยู่กับคนพาลแล้วกลับให้โทษ
-กายแลใจต้องการอาหารต่างกัน
-การงานในโลกไม่สมประสงค์ของใครจริง
-รู้อะไรรู้ได้ง่ายแต่รู้จักตัวของตัวเองนั้นรู้ยากที่สุด
-นิพพานเปนธรรมชาติไม่มีคู่เปรียบ
-ไม่มีใครรู้สิ่งใด ๆ ว่าเปนอะไรจริง
-โลกกับธรรมอยู่ด้วยกัน
-สัตว์ไม่มีจริงนอกจากสมมต
-โลกกับธรรมแลกายกับจิตร์เปนคู่กัน
-พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ใจ
-ทุกคนอยู่กับพระแต่ไม่รู้จักพระ
-พระอยู่ทั่วไป
-อยู่ในโลกจงระวังอย่ากลายเปนโลก
-จิตรควรจะเปนใหญ่กว่ากาย
-อะมัตะธรรมเปนของเที่ยง
-จงรีบเจริญกุศลเสียแต่ยังไม่ทุพลภาพ
-เวลาล่วงไปแล้วไม่กลับคืนมาอีก
-ผู้ใดไม่ทำความดีย่อมเปนสัตรูแก่ตัวเอง
-เราเคยเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว
-ความวิบัติมีทั่วหน้ากันหมด
-คนไม่มีที่พึ่งจะหนีความตายไม่พ้น
-ศีลสมาธิปัญญาเหมือนเรือ