รายการข้อมูลนี้เป็นรายการส่วนบุคคล
ประกาศนโยบายการรวบรวมและนำฝากทรัพยากรฯ
dc.date.accessioned | 2025-06-12T04:23:35Z | |
dc.date.available | 2025-06-12T04:23:35Z | |
dc.identifier.uri | https://hdl.handle.net/20.500.14156/2006958 | |
dc.title | ประกาศนโยบายการรวบรวมและนำฝากทรัพยากรฯ | |
nalt.description.html | <div> <h4><strong>นโยบายการรวบรวมและนำฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></h4> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภา (Parliamentary Repository of Thailand : PRT) เป็นแหล่งจัดเก็บ สงวนรักษา และเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลทางด้านนิติบัญญัติโดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้เป็นคลังสารสนเทศ ในรูปแบบเปิด (Open Access) เพื่อให้สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการรัฐสภา บุคคลในวงงานรัฐสภา และประชาชน สามารถเข้าถึงเนื้อหา ความรู้ และเอกสารหลักฐานด้านนิติบัญญัติและการเมืองการปกครองได้อย่างเสรีและเสมอภาค อันนำไปสู่การสร้างสังคมแห่งประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่มีความเข้มแข็งและเป็นไปตามกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน</p> <p>ดังนั้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์และแนวทางในการรวบรวมและนำฝากทรัพยากรสารสนเทศ ซึ่งทำให้การจัดเก็บ สงวนรักษา และเผยแพร่ ทรัพยากรสารสนเทศของรัฐสภาในคลังสารสนเทศรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระบบสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสามารถใช้งานได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน จึงกำหนดนโยบายการรวบรวมและนำฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภา ดังนี้</p> <p><strong>1. วัตถุประสงค์ของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></p> <p>1.1 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวม จัดเก็บ สงวนรักษา และเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลทางด้านนิติบัญญัติ ให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว</p> <p>1.2 เพื่อให้บริการสารสนเทศดิจิทัลทางด้านนิติบัญญัติแก่สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการรัฐสภา บุคคลในวงงานรัฐสภา และประชาชน</p> <p><strong>2. ขอบเขตของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศในคลังสารสนเทศรัฐสภา ครอบคลุมเอกสารการประชุมสภา ผลงานสร้างสรรค์ของบุคคลหรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา และทรัพยากรสารสนเทศจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา และได้รับการยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ ทั้งในรูปแบบเอกสาร รูปภาพ สื่อเสียง และสื่อมัลติมีเดีย ทั้งที่ถูกสร้างเป็นรูปแบบดิจิทัลหรือถูกแปลงจากต้นฉบับให้เป็นรูปแบบดิจิทัล</p> <p><strong>3. วิธีการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p><strong>3.1 การรวบรวม</strong> กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศทั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์และไฟล์ดิจิทัลของหน่วยงานภายใต้สังกัดรัฐสภา และหน่วยงานภายนอกที่มีการเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศเกี่ยวกับรัฐสภา เพื่อนำเข้าในคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p><strong>3.2 การนำฝาก</strong> บุคคลหรือหน่วยงานนำฝากทรัพยากรสารสนเทศทั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์และไฟล์ดิจิทัลตามวิธีการ ๓ รูปแบบ ดังนี้</p> <p>1) การนำฝากโดยการส่งทรัพยากรสารสนเทศมายังกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนำเข้าให้</p> <p>2) การนำฝากทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลโดยผู้นำฝากนำเข้าระบบคลังสารสนเทศรัฐสภาด้วยตนเอง</p> <p>3) การนำฝากทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจากระบบงานอื่นที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน</p> <p>ทั้งนี้ การรวบรวมและนำฝากจะต้องได้รับการลงนามยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่จากบุคคลหรือหน่วยงานเจ้าของลิขสิทธิ์</p> <p><strong>4. เกณฑ์การคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p><strong>4.1 ด้านเนื้อหา</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจะพิจารณาคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับขอบเขตของคลังสารสนเทศรัฐสภา โดยพิจารณาประกอบกับเกณฑ์ด้านเนื้อหาที่กำหนดไว้ ดังนี้</p> <p>4.1.1 มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับรัฐสภาและเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งแบ่งเป็น ๔ กลุ่ม ได้แก่</p> <p>1) เอกสารการประชุมสภา</p> <p>2) ผลงานสร้างสรรค์ของบุคคลหรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา</p> <p>3) กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา<br /> ซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา</p> <p>4) ทรัพยากรสารสนเทศจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา</p> <p>4.1.2 มีเนื้อหาที่ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น</p> <p>4.1.3 มีเนื้อหาที่ไม่ละเมิดหลักจริยธรรมต่าง ๆ ไม่เป็นภัยต่อสังคม หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน</p> <p>4.1.4 มีเนื้อหาที่เป็นฉบับเผยแพร่หรือฉบับสมบูรณ์</p> <p>4.1.5 ไม่มีเนื้อหาที่เป็นเอกสารปิด/ลับ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลทางการแพทย์และสุขภาพบุคลากร ข้อมูลด้านความปลอดภัย ข้อมูลโครงสร้างอาคาร บันทึกการสนทนาการรับรองบุคคลต่างประเทศ</p> <p>4.1.6 กรณีทรัพยากรสารสนเทศที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เผยแพร่ได้ แต่มีเนื้อหาบางส่วนเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแทรกอยู่จะมีการปรับแต่งไฟล์เพื่อปิดเนื้อหาส่วนนั้นไว้</p> <p><strong>4.2 ด้านเจ้าของลิขสิทธิ์</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในคลังสารสนเทศรัฐสภาทุกรายการ เจ้าของลิขสิทธิ์ยังคงมีลิขสิทธิ์ในผลงานนั้น รวมถึงความรับผิดชอบต่อความถูกต้องของเนื้อหาและการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีข้อพิพาททางกฎหมายไม่ว่ากรณีใดถือเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของผลงาน</p> <p><strong>4.3 ด้านประเภททรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจะพิจารณาคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะที่มีเนื้อหาที่เป็นฉบับเผยแพร่หรือฉบับสมบูรณ์ เช่น หนังสือ วารสาร บทความวิชาการ รายงานการศึกษา รายงานการวิจัย แผ่นพับ เอกสารเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน (คู่มือ แผนการปฏิบัติงาน รายงานประจำปี สรุปผลงาน รายงานการประชุม/สัมมนา/ดูงาน) กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา รูปภาพ คลิปเสียง และวีดิทัศน์</p> <p><strong>4.4 ด้านคุณลักษณะทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล ควรมีคุณลักษณะเชิงเทคนิคที่เหมาะสมกับการสงวนรักษา <br /> การให้บริการและการใช้งาน สามารถนำไฟล์กลับมาใช้ใหม่ได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ตามแนวทางที่กำหนดในแผนการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลฯ</p> <p><strong>4.5 ด้านผู้คัดเลือก</strong></p> <p>4.5.1 ผู้รวบรวมหรือผู้นำฝากจะเป็นผู้คัดเลือกเบื้องต้นตามเกณฑ์การคัดเลือก</p> <p>4.5.2 กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง โดยขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบ คัดเลือก นำเข้าข้อมูล และจัดประเภทเนื้อหาทรัพยากรสารสนเทศเพื่อให้บริการ รวมถึงการนำข้อมูลออกจากระบบเมื่อตรวจพบภายหลังว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายนี้</p> <p><strong>5. การให้ความยินยอมอนุญาต</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศทั้งในรูปแบบเอกสาร รูปภาพ สื่อเสียง และสื่อมัลติมีเดีย ทั้งที่ถูกสร้างเป็นรูปแบบดิจิทัลหรือถูกแปลงจากต้นฉบับให้เป็นรูปแบบดิจิทัลที่นำฝาก เจ้าของลิขสิทธิ์ต้องให้ความยินยอมอนุญาตให้กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิในการทำซ้ำ ดัดแปลงและเผยแพร่ เพื่อการใช้งานในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงสิทธิในการคัดลอกเนื้อหาบางส่วนเพื่อการประชาสัมพันธ์ โดยคลังสารสนเทศรัฐสภาจัดทำแบบฟอร์มสำหรับให้ความยินยอมดังกล่าวซึ่งต้องลงนามโดยเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น</p> <p><strong>6. การเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภากำหนดระดับการเผยแพร่เป็น ๒ ระดับ คือ</p> <p><strong>6.1 เผยแพร่เป็นสาธารณะ</strong></p> <p><strong>6.2 เผยแพร่เฉพาะในวงงานรัฐสภา</strong></p> <p>โดยเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)</p> <p><strong>7. สิทธิการเข้าใช้งานในระบบการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ </strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจะกำหนดสิทธิการเข้าใช้งานของแต่ละบุคคลตามที่หน่วยงานผู้นำฝากระบุ เช่น สิทธิในการนำเข้าและกำหนดคำอธิบายข้อมูล สิทธิในการอนุญาตให้ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ และจัดการไฟล์ สิทธิในการขอแก้ไข หรือถอนทรัพยากรสารสนเทศ</p> <p><strong>8. การขอเปลี่ยนแปลงหรือขอถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภา </strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภามุ่งจัดเก็บเพื่อสงวนรักษาสารสนเทศโดยไม่มีการทำลายไฟล์ดิจิทัล ยกเว้นผู้นำฝากหรือเจ้าของลิขสิทธิ์แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงหรือขอถอนทรัพยากรสารสนเทศ โดยติดต่อกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร</p> <p><strong>9. จริยธรรมในการใช้สารสนเทศ</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาส่งเสริมให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้ค้นคว้ามีจริยธรรมในการใช้สารสนเทศ โดยทรัพยากรสารสนเทศที่นำฝากควรมีการอ้างอิงที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันผู้ที่นำทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภาไปใช้งานก็ควรมีการอ้างอิงแหล่งที่มา</p> </div> |