แนวทางการรวบรวมและนำฝากทรัพยากร

dc.date.accessioned2025-06-12T04:25:04Z
dc.date.available2025-06-12T04:25:04Z
dc.identifier.urihttps://hdl.handle.net/20.500.14156/2006959
dc.titleแนวทางการรวบรวมและนำฝากทรัพยากร
nalt.description.html<div> <h4><strong>แนวทางการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศ</strong></h4> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภา (Parliamentary Repository of Thailand : PRT) เป็นแหล่งจัดเก็บ สงวนรักษา และเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลทางด้านนิติบัญญัติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้เป็นคลังสารสนเทศในรูปแบบเปิด (Open Access) เพื่อให้สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการรัฐสภา บุคคลในวงงานรัฐสภา และประชาชน สามารถเข้าถึงเนื้อหา ความรู้ และเอกสารหลักฐานด้านนิติบัญญัติและการเมืองการปกครองได้อย่างเสรีและเสมอภาค อันนําไปสู่การสร้างสังคมแห่งประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่มีความเข้มแข็งและเป็นไปตามกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน</p> <p>ดังนั้น สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงจัดทําประกาศ เรื่อง "<strong>นโยบายการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong>" เพื่อกําหนดหลักเกณฑ์ในการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศ ซึ่งทําให้การจัดเก็บ สงวนรักษา และเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศในคลังสารสนเทศรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระบบสอดคล้องกับมาตรฐานสากล สามารถใช้งานได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน และเพื่อให้การดําเนินงานในการจัดการคลังสารสนเทศรัฐสภาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว จึงได้กําหนด "<strong>แนวทางการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong>" สําหรับใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงานแก่ผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้</p> <ol> <li>ขอบเขตของคลังสารสนเทศรัฐสภา</li> <li>วิธีการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ</li> <li>เกณฑ์การคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศ</li> <li>การขอเปลี่ยนแปลงหรือขอถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภา</li> <li>จริยธรรมในการใช้สารสนเทศ</li> <li>ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ</li> </ol> <h4><strong>1. ขอบเขตของคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></h4> <p>ทรัพยากรสารสนเทศในคลังสารสนเทศรัฐสภา ครอบคลุมเอกสารการประชุมสภา ผลงานสร้างสรรค์ของบุคคลหรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา และทรัพยากรสารสนเทศจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา และได้รับการยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ ทั้งในรูปแบบเอกสาร รูปภาพ สื่อเสียง และสื่อมัลติมีเดีย ทั้งที่ถูกสร้างเป็นรูปแบบดิจิทัลหรือถูกแปลงจากต้นฉบับให้เป็นรูปแบบดิจิทัล โดยแบ่งทรัพยากรสารสนเทศเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้</p> <p><strong>กลุ่มที่ 1 เอกสารการประชุมสภา</strong></p> <p>เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสภา ได้แก่ รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสภาอื่น ซึ่งเป็นสารสนเทศหลักของรัฐสภา ประกอบด้วย ระเบียบวาระการประชุม ร่างรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติ พระราชกําหนด ร่างข้อบังคับ กระทู้ถาม ญัตติ ข้อมูลการประชุมสภา (รายงานการประชุม บันทึกการประชุม สรุปผลการประชุมสภา บันทึกการออกเสียงลงคะแนน ประมวลคําวินิจฉัย สรุปเหตุการณ์) รายงานคณะกรรมาธิการที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติ เอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารงบประมาณ รายงานผลการดําเนินงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รายงานประจําปีของหน่วยงานภาครัฐ และเอกสารแนบระเบียบวาระอื่น ๆ เช่น หนังสือสัญญาระหว่างประเทศ รวมถึงเอกสารการประชุมเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ</p> <p><strong>กลุ่มที่ 2 ผลงานสร้างสรรค์ของบุคคลหรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา</strong></p> <p>เป็นทรัพยากรสารสนเทศสําคัญ เพราะสร้างสรรค์หรือรวบรวมโดยบุคคลหรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา โดยคลังสารสนเทศรัฐสภาจะจัดเก็บและเผยแพร่เฉพาะผลงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ได้แก่ ผลงานของบุคคล หรือหน่วยงานในสังกัดรัฐสภา ผลงานของคณะกรรมาธิการ เช่น รายงานการวิจัยด้านการเมืองการปกครอง วารสาร เอกสารวิชาการ บทความวิชาการ วรรณกรรมการเมือง รวมทั้งประกาศ ระเบียบ คําสั่งของส่วนราชการในสังกัดรัฐสภา (ที่ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา)</p> <p><strong>กลุ่มที่ 3 กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจัดเก็บกฎหมายที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภาทั้งหมด ได้แก่ รัฐธรรมนูญและธรรมนูญการปกครอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกําหนด พระราชกฤษฎีกา ข้อบังคับ กระทู้ถาม บันทึกการประชุมสภา คําวินิจฉัย คําพิพากษา และประกาศ ระเบียบ คําสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา</p> <p><strong>กลุ่มที่ 4 ทรัพยากรสารสนเทศจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา</strong></p> <p>เป็นทรัพยากรสารสนเทศที่สนับสนุนการปฏิบัติงานและเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินงานด้านนิติบัญญัติของบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่ได้รับการยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่จากเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สถาบันพระปกเกล้า</p> <p><strong>2. วิธีการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p><strong>2.1 การรวบรวม</strong> โดยกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ดําเนินการรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศทั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์และไฟล์ดิจิทัลของหน่วยงานภายใต้สังกัดรัฐสภา และหน่วยงานภายนอกที่มีการเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศเกี่ยวกับรัฐสภา เพื่อนําเข้าในคลังสารสนเทศรัฐสภา ทั้งนี้ การรวบรวมจะต้องได้รับการลงนามยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ และมอบสิทธิในการทําซ้ํา ดัดแปลง และเผยแพร่ข้อมูลให้แก่คลังสารสนเทศรัฐสภา <br /> <br /><strong>ขั้นตอนการรวบรวม</strong></p> <p style="padding-left: 30px;">1) กําหนดผู้รับผิดชอบในการรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศ <br />2) ประสานไปยังบุคคลหรือหน่วยงานเจ้าของลิขสิทธิ์ <br />3) คัดเลือกรายการทรัพยากรสารสนเทศตามเกณฑ์ที่กําหนดไว้ในประกาศสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง นโยบายการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภา <br />4) จัดทําสรุปรายการทรัพยากรสารสนเทศที่ต้องการรวบรวม <br />5) จัดทําหนังสือขอความยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ <br />6) รับมอบทรัพยากรสารสนเทศเพื่อนําเข้าระบบคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p><strong>2.2 การนําฝาก</strong> บุคคลหรือหน่วยงานนําฝากทรัพยากรสารสนเทศ (ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลหรือสิ่งพิมพ์) ที่สอดคล้องกับนโยบายการรวบรวมและนําฝากทรัพยากรสารสนเทศของคลังสารสนเทศรัฐสภาตามวิธีการที่กําหนด 3 รูปแบบ ดังนี้</p> <p>1) การนําฝากโดยการส่งทรัพยากรสารสนเทศมายังกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำเข้าให้ สามารถดําเนินการด้วยวิธี ดังต่อไปนี้</p> <ul> <li>นําส่งด้วยตนเองที่กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ชั้น 10 (เฉพาะจันทร์-ศุกร์ เวลาราชการ)</li> <li>นําส่งทางอีเมล <a href="mailto:prt@parliament.go.th">prt@parliament.go.th</a></li> <li>ช่องทางอื่น</li> </ul> <p>2) การนําฝากทรัพยากรสารสนเทศโดยผู้นําฝากนําเข้าระบบคลังสารสนเทศรัฐสภาด้วยตนเอง สามารถดําเนินการดังนี้</p> <ul> <li>ผู้นําฝากยืนยันตัวตนผ่านการ Login เข้าสู่ระบบนําฝาก โดยคลังสารสนเทศรัฐสภาจะกําหนดสิทธิการเข้าใช้งานของแต่ละบุคคลตามที่หน่วยงานผู้นำฝากระบุ</li> <li>เลือกกลุ่มเอกสารหรือประเภทของรายการข้อมูลที่ต้องการนําฝาก</li> <li>อัปโหลดไฟล์ และบันทึกรายละเอียดคําอธิบายข้อมูลหรือเมทาดาทาของรายการข้อมูลที่ต้องการนําฝาก โดยเป็นไปตามเงื่อนไขข้อกําหนดของคลังสารสนเทศรัฐสภา</li> <li>ยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และยินยอมให้สิทธิแก่คลังสารสนเทศรัฐสภาตามเงื่อนไข</li> <li>กําหนดระดับของการเผยแพร่เบื้องต้นว่าเป็นระดับสาธารณะหรือเฉพาะในวงงานรัฐสภา (กรณีเผยแพร่เฉพาะในวงงานรัฐสภา ต้องระบุเหตุผลให้ชัดเจน)</li> <li>ตรวจสอบความครบถ้วนของรายการที่ได้นําฝากเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ผู้นําฝากสามารถติดตามผลการอนุมัติการนําฝากได้ผ่านระบบ และสามารถขอ ยกเลิกการนําฝากทรัพยากรสารสนเทศได้สําหรับรายการที่นําฝากแล้ว แต่ยังไม่มีการอนุมัติเพื่อการจัดเก็บ (กรณีรายการที่มีการนําฝากไปแล้วในระบบ ให้แจ้งขอถอนทรัพยากรสารสนเทศ ตามขั้นตอนที่กําหนดไว้ในข้อ 4.3)</li> </ul> <p>3) การนําฝากทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจากระบบงานอื่นที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน</p> <p>ให้ติดต่อกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อดําเนินการร่วมกันทั้งระบบต้นทางและระบบคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p>ทั้งนี้ การนําฝากทุกรูปแบบต้องได้รับการลงนามยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่จากบุคคลหรือหน่วยงานเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และมอบสิทธิในการทําซ้ํา ดัดแปลง และเผยแพร่ผลงานให้แก่คลังสารสนเทศรัฐสภา โดยกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรจะส่งรายงานให้ผู้นําฝากตรวจสอบความถูกต้องเป็นระยะ <br /> <br /><strong>3. เกณฑ์การคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>การพิจารณาผลงาน/ทรัพยากรสารสนเทศที่รวบรวมและนําฝากในคลังสารสนเทศรัฐสภา พิจารณาตามเกณฑ์การคัดเลือก ดังต่อไปนี้</p> <p><strong>3.1 ด้านเนื้อหา</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจะพิจารณาคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับขอบเขตของคลังสารสนเทศรัฐสภา และเกณฑ์ด้านเนื้อหาที่กําหนดไว้ ดังนี้</p> <ul> <li>มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับรัฐสภาและเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ตามที่ได้ระบุรายละเอียดไว้ในข้อ 1</li> <li>ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยระบุให้ชัดเจนในแบบฟอร์มสําหรับให้ความยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ผลงานในคลังสารสนเทศรัฐสภา</li> <li>มีเนื้อหาที่ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น (การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง การนําผลงานของผู้อื่นมาใช้ เผยแพร่ ดัดแปลง ทําซ้ํา โดยผู้เป็นเจ้าของผลงานไม่อนุญาต)</li> <li>มีเนื้อหาที่ไม่ละเมิดหลักจริยธรรมต่าง ๆ ไม่เป็นภัยต่อสังคม หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน (หลักจริยธรรม หมายถึง จริยธรรมทางวิชาการ จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ เช่น ไม่มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครอง ไม่มีเนื้อหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่มีเนื้อหาที่เข้าลักษณะลามกอนาจาร)</li> <li>มีเนื้อหาที่เป็นฉบับเผยแพร่หรือฉบับสมบูรณ์</li> <li>ไม่มีเนื้อหาที่เป็นเอกสารปิด/ลับ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลด้านการเงิน และข้อมูลสุขภาพบุคลากร ข้อมูลด้านความปลอดภัย ข้อมูลโครงสร้างอาคาร บันทึกการสนทนาการรับรองบุคคลต่างประเทศ (กรณีที่เนื้อหาส่วนใหญ่เผยแพร่ได้ แต่มีข้อมูลส่วนบุคคลแทรกอยู่บางส่วนจะมีการปรับแต่งไฟล์เพื่อปิดเนื้อหาส่วนนั้นไว้)</li> <li>ผู้ดูแลระบบคลังสารสนเทศรัฐสภาขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบคัดเลือกนําเข้าข้อมูลและจัดประเภทเนื้อหาเพื่อให้บริการ</li> <li>หากมีการตรวจสอบภายหลังที่เปิดให้บริการไปแล้วพบว่า รายการทรัพยากรสารสนเทศใดไม่ตรงกับนโยบายที่คลังสารสนเทศรัฐสภากําหนด สามารถงดให้บริการได้ทันที โดยรายงานให้ผู้นําฝากรับทราบ</li> </ul> <p><strong>3.2 ด้านเจ้าของลิขสิทธิ์</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศที่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในคลังสารสนเทศรัฐสภาทุกรายการ เจ้าของลิขสิทธิ์ยังคงมีลิขสิทธิ์ในผลงานนั้น รวมถึงความรับผิดชอบต่อความถูกต้องของเนื้อหาและการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีข้อพิพาททางกฎหมายไม่ว่ากรณีใดถือเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของผลงาน</p> <p><strong>3.3 ด้านประเภททรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภาจะพิจารณาคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะที่มีเนื้อหาที่เป็นฉบับเผยแพร่หรือฉบับสมบูรณ์ เช่น หนังสือ วารสาร บทความวิชาการ รายงานการศึกษา รายงานการวิจัย แผ่นพับ เอกสารเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน (คู่มือ แผนการปฏิบัติงาน รายงานประจําปี สรุปผลงาน รายงานการประชุม สัมมนา หรือดูงาน) กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งเกี่ยวข้องกับรัฐสภา รูปภาพ คลิปเสียง และวีดิทัศน์ โดยไม่รับฝากทรัพยากรสารสนเทศบางประเภท เช่น แบบฟอร์มต่าง ๆ คําขอตั้งงบประมาณ บัญชีลงชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข่าว ปฏิทินกิจกรรม รายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ข้อมูลในรูปแบบฐานข้อมูลและแอปพลิเคชัน</p> <p><strong>3.4 ด้านคุณลักษณะทรัพยากรสารสนเทศ</strong></p> <p>ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล ควรมีคุณลักษณะเชิงเทคนิคที่เหมาะสมกับการสงวนรักษา การให้บริการ และการใช้งาน สามารถนําไฟล์กลับมาใช้ใหม่ได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน และช่วยลดปัญหาไฟล์ดิจิทัลล้าสมัย จึงได้กําหนดรูปแบบมาตรฐานตามชนิดไฟล์ที่นําเข้า จัดเก็บ และเผยแพร่ในคลังสารสนเทศรัฐสภา ดังรายละเอียดในตารางต่อไปนี้ <br /> <br /><strong>ตารางคุณลักษณะเชิงเทคนิคของทรัพยากรสารสนเทศในคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></p> <table style="float: left; width: 669px;" border="1"> <tbody> <tr> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 122px;">ชนิดไฟล์</td> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 517px;" colspan="3">รูปแบบ</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 122px;">&nbsp;</td> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 284px;">นำเข้า</td> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 110.438px;">จัดเก็บ</td> <td style="vertical-align: top; text-align: center; width: 122.562px;">เผยแพร่</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; width: 122px;">ไฟล์เอกสาร (Text)</td> <td style="vertical-align: top; width: 284px;">Adobe Portable Document Format (PDF, PDF/A) (.pdf)</td> <td style="vertical-align: top; width: 110.438px;"> <p>PDF/A<br />.docx</p> </td> <td style="vertical-align: top; width: 122.562px;">PDF</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; width: 122px;">ไฟล์ชุดข้อมูล (Dataset)</td> <td style="vertical-align: top; width: 284px;">- Spreadsheet (.xls/ .xlsx/ .csv)</td> <td style="vertical-align: top; width: 110.438px;">.csv<br />.xlsx</td> <td style="vertical-align: top; width: 122.562px;">.csv</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; width: 122px;">ไฟล์ภาพ (Image)</td> <td style="vertical-align: top; width: 284px;">JPEG (.jpg, .jpeg)<br />PNG (.png)<br />TIFF (.tif, .tiff)<br />Bitmap<br />Raw Image<br />EIFF<br />DNG<br />PICT</td> <td style="vertical-align: top; width: 110.438px;">TIFF</td> <td style="vertical-align: top; width: 122.562px;">JPG</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; width: 122px;">ไฟล์วิดีโอ (Video)</td> <td style="vertical-align: top; width: 284px;">MPEG-2 (.mpg, mpeg)<br />MPEG-4 H264 (.mp4)<br />Lossless AVI (.avi)<br />QuickTime (.mov)</td> <td style="vertical-align: top; width: 110.438px;">MKV</td> <td style="vertical-align: top; width: 122.562px;">MP4</td> </tr> <tr> <td style="vertical-align: top; width: 122px;">ไฟล์เสียง (Sound)</td> <td style="vertical-align: top; width: 284px;">Waveform Audio Format (.wav)<br />MPEG-1 Audio Layer 3 (.mp3)</td> <td style="vertical-align: top; width: 110.438px;">WAV</td> <td style="vertical-align: top; width: 122.562px;">MP3</td> </tr> </tbody> </table> <p><strong>ที่มา :</strong> Library of Congress Recommended Formats Statement 2023-2024 (<a href="https://www.loc.gov/preservation/resources/rfs/index.html">https://www.loc.gov/preservation/resources/rfs/index.html</a>)</p> <ul> <li>การตั้งชื่อไฟล์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่คลังสารสนเทศรัฐสภากําหนด</li> <li>ความละเอียดของไฟล์ ไฟล์เอกสารดิจิทัลที่แปลงจากเอกสารตัวเล่มจะต้องสแกนที่ความละเอียดของภาพไม่น้อยกว่า 300 dpi (dot per inch) ในโหมดสีและขาวดํา ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่คลังสารสนเทศรัฐสภากําหนด</li> <li>การสร้างไฟล์และแก้ไขไฟล์ ต้องใช้โปรแกรมที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์</li> <li>ไฟล์ต้องไม่มีการเข้ารหัสป้องกัน เพื่อให้สามารถแก้ไข แปลงไฟล์ หรือจัดการไฟล์ระหางดําเนินงาน</li> </ul> <p>กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอสงวนสิทธิ์ในการทําซ้ํา ดัดแปลง เผยแพร่ และการจัดการไฟล์ดิจิทัลเพิ่มเติม เช่น สารบัญ (Bookmark) ตลอดจนการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการคัดลอกเนื้อหาบางส่วน เพื่อการประชาสัมพันธ์<br /> <br /><strong>3.5 ด้านผู้คัดเลือก</strong></p> <ul> <li>ผู้รวบรวมหรือผู้นําฝากจะเป็นผู้คัดเลือกเบื้องต้นตามเกณฑ์การคัดเลือก</li> <li>กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง โดยขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบ คัดเลือก นําเข้าข้อมูล และจัดประเภทเนื้อหาทรัพยากรสารสนเทศเพื่อให้บริการ รวมถึงการนําข้อมูลออกจากระบบเมื่อตรวจพบภายหลังว่าไม่สอดคล้องกับนโยบายนี้</li> </ul> <p><strong>4. การขอเปลี่ยนแปลงหรือขอถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></p> <p>คลังสารสนเทศรัฐสภามุ่งจัดเก็บเพื่อสงวนรักษาสารสนเทศโดยไม่มีการทําลายไฟล์ดิจิทัล ยกเว้น ผู้นําฝากหรือเจ้าของลิขสิทธิ์แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงหรือขอถอนทรัพยากรสารสนเทศ โดยติดต่อ กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร</p> <p><strong>4.1 การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา</strong></p> <p>1) เจ้าของลิขสิทธิ์แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเนื้อหา โดยกรอกแบบฟอร์มขอเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเนื้อหาในคลังสารสนเทศรัฐสภา <br />2) เจ้าหน้าที่รับทราบเรื่องและพิจารณาว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงกรณีใด</p> <p><strong>กรณีที่ 1</strong> การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การสะกดคําผิด รูปภาพไม่ชัด แก้ไขตัวเลขหรือสถิติให้ถูกต้อง เพิ่มเติมอ้างอิงแหล่งที่มา เจ้าหน้าที่รับเอกสารหรือไฟล์เพื่อปรับเปลี่ยนเฉพาะหน้าที่ระบุ แล้วนําไฟล์ใหม่เข้าสู่ระบบบริหารจัดการคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p><strong>กรณีที่ 2</strong> การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญ เช่น การเปลี่ยนข้อความการแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้เขียน เจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องลงนามยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่ตามขั้นตอนเดิม</p> <p>เจ้าหน้าที่ระบุรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงในหมายเหตุของรายการนั้น โดยซ่อนข้อความหรือแสดงข้อความดังกล่าวตามที่เจ้าของลิขสิทธิ์ระบุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ดําเนินการปรับเปลี่ยนไฟล์ใหม่ตามคําร้องขอ และนําเข้าสู่ระบบบริหารจัดการคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p><strong>4.2 การเปลี่ยนแปลงเวอรชันไฟล์</strong></p> <p>1) เจ้าของลิขสิทธิ์แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงไฟล์จากเวอร์ชันเดิม โดยกรอกแบบฟอร์มขอเปลี่ยนแปลงเวอร์ชันของไฟล์เนื้อหาในคลังสารสนเทศรัฐสภา <br />2) เจ้าหน้าที่รับทราบเรื่องและพิจารณาว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบใด<br /> <br /><strong>กรณีที่ 1</strong> ไฟล์เวอร์ชันเดิมผูู้ใช้่ส่วนใหญ่ไม่มีโปรแกรมสําหรับเปิด กรณีนี้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่รับไฟล์เวอร์ชันใหม่ แล้วนําเข้าสู่ระบบบริหารจัดการคลังสารสนเทศรัฐสภา</p> <p><strong>กรณีที่ 2</strong> ไฟล์เวอร์ชันใหม่ที่ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงยังไม่แพร่หลายในขณะนั้น จะไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลง</p> <p><strong>4.3 การขอถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภา</strong></p> <p>เจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิขอถอนทรัพยากรสารสนเทศที่นําฝาก โดยแจ้งความประสงค์ขอถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภาผ่านแบบฟอร์มการขอถอน พร้อมระบุเหตุผล และลงนามยินยอมอนุญาตให้ถอนทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภาต่อกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดูแลระบบคลังสารสนเทศรัฐสภาจึงจะดําเนินการถอนทรัพยากรสารสนเทศดังกล่าว</p> <p>กรณีเกิดการร้องเรียนหรือมีข้อพิพาทในการเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศไม่ว่ากรณีใด คลังสารสนเทศรัฐสภาขอสงวนสิทธิ์งดเผยแพร่ทรัพยากรสารสนเทศนั้นทันทีที่ได้รับการร้องเรียนหรือรับทราบข้อพิพาทจนกว่าจะได้ขอยุติ <br /> <br /><strong>5. จริยธรรมในการใช้สารสนเทศ</strong></p> <p>จริยธรรมในการใช้สารสนเทศ หมายถึง หลักประพฤติปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและสารสนเทศรวมถึงการใช้สารสนเทศ เพื่อให้การจัดการและการใช้สารสนเทศเป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยํา ครบถ้วน และสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด รวมถึงไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รวมถึงการไม่ลักลอกวรรณกรรมของผู้อื่น (Plagiarism) ดังนั้น ทรัพยากรสารสนเทศที่นําฝากจึงควรมีการอ้างอิงที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันผู้ที่นําทรัพยากรสารสนเทศจากคลังสารสนเทศรัฐสภาไปใช้งานก็ควรมีการอ้างอิงแหล่งที่มา ซึ่งได้ระบุไว้บนเว็บไซต์คลังสารสนเทศรัฐสภาว่า</p> <p>การนําสารสนเทศไปใช้งานนั้น ต้องอยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)</p> <center><img src="https://prt.parliament.go.th/server/api/core/bitstreams/ee181bc2-319f-4942-ba94-775f8399d395/content" alt="" width="" height="" /></center> <p><strong>ครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC)</strong> เป็นองค์กรไม่แสวงกําไรที่สนับสนุนแนวคิดการอนุญาตให้ใช้งานมีลิขสิทธิ์ โดยสัญลักษณ์ครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) จะแทนสัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์ กล่าวคือ แทนการอนุญาตใช้เนื้อหาหรืองานมีลิขสิทธิ์โดยไม่ต้องขออนุญาต และไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ที่ต้องการนํางานลิขสิทธิ์นั้นไปใช้จะต้องทําตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้บนผลงาน แต่ละเงื่อนไขจะถูกแทนผ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ ดังนี้</p> <p>1) <strong>Attribution (BY)</strong> สัญลักษณ์ที่แสดงว่า อนุญาตให้ผู้อื่นสามารถนําผลงานไปใช้ ทําซ้ํา แจกจ่าย หรือดัดแปลงงานนั้นได้ แต่ต้องอ้างอิงที่มาของผลงานนั้น เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของผลงาน <br />2) <strong>NonCommercial (NC)</strong> สัญลักษณ์ที่แสดงว่า อนุญาตให้ผู้อื่นสามารถนําผลงานไปใช้ ทําซ้ํา แจกจ่าย หรือดัดแปลงงานนั้นได้ แต่ต้องไม่ใช้เพื่อการค้า <br />3) <strong>NoDerivatives (ND)</strong> สัญลักษณ์ที่แสดงว่า อนุญาตให้ผู้อื่นสามารถนําผลงานไปใช้ ทําซ้ํา แจกจ่าย ผลงานชิ้นนั้นได้ แต่ห้ามดัดแปลงงาน <br /> <br /> <strong>6. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ</strong></p> <p>สามารถแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงการให้บริการได้ที่</p> <p>กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา <br />เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 <br /><strong>โทรศัพท์ :</strong> 0-2242-5900 ต่อ 5721 <br /><strong>อีเมล&nbsp;:</strong> <a href="mailto:prt@parliament.go.th">prt@parliament.go.th</a></p> </div>
แฟ้มข้อมูล
บันเดิลข้อมูลต้นฉบับ
แสดง 1 - 1 จากทั้งหมด 1
ภาพตัวอย่าง
ชื่อ:
Creative-Commons-logo-88x31.png
ขนาด:
1.49 KB
รูปแบบ:
Portable Network Graphics
บันเดิลสัญญาอนุญาต
แสดง 1 - 1 จากทั้งหมด 1
ภาพตัวอย่าง
ชื่อ:
license.txt
ขนาด:
4.12 KB
รูปแบบ:
Item-specific license agreed to upon submission
รายละเอียด:
กลุ่มข้อมูล