การเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
18
14
ประเภททรัพยากร
จำนวนหน้า/ขนาด
89
หน่วยงานที่เผยแพร่
วันที่เผยแพร่
2566
สิทธิ์ในการเข้าถึง
เจ้าของสิทธิ์
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ข้อมูลอ้างอิง
กรรณิกา เนาว์วิลาศ การเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. Retrieved from: https://hdl.handle.net/20.500.14156/2008365.
ชื่อเรื่องอื่น
The preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives
ผู้แต่ง
เนื้อเรื่องย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญ ต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 2) เปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ 3) ศึกษา ความสัมพันธ์ของการรับรู้ และการยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยใช้รูปแบบการวิจัย เชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ ข้าราชการรัฐสภาสามัญที่ปฏิบัติงานในสำนักบริหารงานกลาง สังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 73 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม สถิติพรรณนาที่นำมาวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับสถิติอนุมานที่นำมาทดสอบสมมติฐานคือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า การเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญ ต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในระดับมาก ปัจจัยส่วนบุคคล เพศ อายุ การศึกษา ตำแหน่ง ระดับตำแหน่งที่แตกต่างกัน มีการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลง สู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไม่แตกต่างกัน ยกเว้นอายุราชการ ปัจจัยด้านการรับรู้และปัจจัยด้านการยอมรับมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
The objectives of this research were: 1) To study the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. 2) To compare personal factors affecting the transition of the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. 3) To examine the relationship between perception and acceptance of the transition of the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. This study employed a quantitative research design. The sample consisted of 73 ordinary parliamentary officers working in the Bureau of Central Administration under the Secretariat of the House of Representatives. The research instrument used was a questionnaire. Descriptive statistics used for data analysis included frequency, percentage, mean, and standard deviation. Inferential statistics used for hypothesis testing included one-way analysis of variance (ANOVA) and Pearson's correlation coefficient. The research results revealed that: the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives, was at a high level. the differences in personal factors, it was found that gender, age, educational level, position, and job level did not show significant differences in the preparation of ordinary parliamentary officials for the transition to an artificial intelligence technology system. In contrast, different lengths of service did show significant differences Perception and acceptance factors had a positive correlation with The study the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives.
The objectives of this research were: 1) To study the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. 2) To compare personal factors affecting the transition of the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. 3) To examine the relationship between perception and acceptance of the transition of the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives. This study employed a quantitative research design. The sample consisted of 73 ordinary parliamentary officers working in the Bureau of Central Administration under the Secretariat of the House of Representatives. The research instrument used was a questionnaire. Descriptive statistics used for data analysis included frequency, percentage, mean, and standard deviation. Inferential statistics used for hypothesis testing included one-way analysis of variance (ANOVA) and Pearson's correlation coefficient. The research results revealed that: the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives, was at a high level. the differences in personal factors, it was found that gender, age, educational level, position, and job level did not show significant differences in the preparation of ordinary parliamentary officials for the transition to an artificial intelligence technology system. In contrast, different lengths of service did show significant differences Perception and acceptance factors had a positive correlation with The study the preparation of ordinary parliament officers for transitioning the work system to artificial intelligence technology (AI): a case study of the Bureau of Central Administration of the Secretariat of the House of Representatives.
สารบัญ
ปกหน้า
บทคัดย่อภาษาไทย
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ
กิตติกรรมประกาศ
สารบัญ
บทที่ 1 บทนำ
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
1.2 วัตถุประสงค์ในการวิจัย
1.3 กรอบแนวคิดในการวิจัย
1.4 คำถามการวิจัย
1.5 สมมติฐานการวิจัย
1.6 ขอบเขตของการวิจัย
1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.8 นิยามศัพท์เฉพาะ
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.1. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
2.2 แนวคิดและทฤษฎีการเปลี่ยนแปลง
2.3 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร
2.4 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการรับรู้
2.5 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยี
2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 ระเบียบวิธีวิจัย
3.1 รูปแบบการวิจัย
3.2 ประชากรเป้าหมายและกลุ่มตัวอย่าง
3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
4.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม
4.3 ผลการวิเคราะห์เชิงพรรณนาเกี่ยวกับตัวแปร
4.4 ผลการวิเคราะห์สมมติฐานการวิจัย
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการวิจัย
5.2 อภิปรายผล
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.4 ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก แบบสอบถาม
ภาคผนวก ข การตรวจสอบความเที่ยงตรงของเครื่องมือการวิจัย
สารบัญตาราง
ตารางที่ 4.2.1.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ
ตารางที่ 4.2.1.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ
ตารางที่ 4.2.1.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม การศึกษา
ตารางที่ 4.2.1.4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามตำแหน่ง
ตารางที่ 4.2.1.5 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม ระดับตำแหน่ง
ตารางที่ 4.2.1.6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุราชการ
ตารางที่ 4.3.1.1 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวแปรการรับรู้ของข้าราชการรัฐสภาสามัญกับ การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.3.1.2 สรุปผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (x̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของตัวแปร การรับรู้ของข้าราชการรัฐสภาสามัญกับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.3.2.1 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของตัวแปรการยอมรับของข้าราชการรัฐสภาสามัญกับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.3.2.2 สรุปผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (x̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ตัวแปรการยอมรับของข้าราชการรัฐสภาสามัญกับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.3.3.1 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาแทนราษฎร
ตารางที่ 4.3.3.2 สรุปผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (x̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.4.1.1 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามเพศ
ตารางที่ 4.4.1.2 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามอายุ
ตารางที่ 4.4.1.3 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามการศึกษา
ตารางที่ 4.4.1.4 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามตำแหน่ง
ตารางที่ 4.4.1.5 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามระดับตำแหน่ง
ตารางที่ 4.4.1.6 ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำแนกตามอายุราชการ
ตารางที่ 4.4.1.7 การแสดงการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ของการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจำแนกตามอายุราชการ (Multiple Comparisons) ด้วยวิธี Least Significant Difference
ตารางที่ 4.4.1.8 สรุปผลการทดสอบสมมติฐานที่ 1 ปัจจัยส่วนบุคคลของข้าราชการรัฐสภาสามัญ สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่แตกต่างกัน มีผลต่อการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่แตกต่างกัน
ตารางที่ 4.4.1.9 แสดงผลการวิเคราะห์การรับรู้และการยอมรับมีความสัมพันธ์กับการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ตารางที่ 4.4.1.10 แสดงผลการเตรียมความพร้อมของข้าราชการรัฐสภาสามัญต่อการเปลี่ยนแปลง สู่ระบบงานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กรณีศึกษาสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
สารบัญภาพ
ภาพประกอบที่ 1.1 กรอบแนวคิดการวิจัย (Conceptual Framework)
ภาพประกอบที่ 2.1 การรับรู้
ประวัติผู้วิจัย
รายละเอียด
ได้รับทุนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อศึกษาระดับปริญญาโทภายในประเทศ (นอกเวลาราชการ)
หน่วยงานที่ให้ทุน
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร