รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (1) บทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
แฟ้มข้อมูล
ประเภททรัพยากร
ฉบับพิมพ์
จำนวนหน้า/ขนาด
60
หน่วยงานที่เผยแพร่
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
วันที่เผยแพร่
2540
วันที่จดลิขสิทธิ์
ISBN
ISSN
DOI
เลขที่หนังสือราชการ
เลขเอกสาร
หมวดหมู่
KD 32
เลขเรียกหนังสือ
รหัสบ่งชี้อื่นๆ
แหล่งจัดเก็บต้นฉบับ
บุคคล/หน่วยงานที่จัดส่งเอกสาร
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ลิงก์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เป็นส่วนหนึ่งของ
อ้างอิงโดย
เวอร์ชัน
มีพื้นฐานจาก
แหล่งที่มา
ข้อมูลอ้างอิง
สิทธิ์ในการเข้าถึง
เจ้าของสิทธิ์
ข้อมูลอ้างอิง
คณิน บุญสุวรรณ (1997). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (1) บทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (1) บทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์. Retrieved from: https://hdl.handle.net/20.500.14156/460874.
ชื่อเรื่องอื่น
ผู้แต่ง
ผู้แต่ง (หน่วยงาน)
ผู้รวบรวม/ผู้เรียบเรียง
ที่ปรึกษา/อาจารย์ที่ปรึกษา
คณะกรรมาธิการ
ผู้ร่วมงานอื่นๆ
ผู้เสนอ : ชื่อ-นามสกุล
ผู้เสนอ : ประเภทสมาชิก
ผู้เสนอ : พรรคที่สังกัด
ผู้เสนอ : จังหวัดที่สังกัด
วันที่เสนอ
วันที่บรรจุระเบียบวาระ
วันที่ประชุม
ครั้งที่ประชุม
ประเภทการประชุม
ประเภทเรื่องที่ประชุม
สถานะการพิจารณา
ประเภทสภา
มติที่ประชุม
สมัยประชุม
ครั้งที่ของสมัยประชุม
สภาชุดที่
สภาปีที่
หมายเลขกระทู้ถาม
ชนิดของกระทู้ถาม
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : ชื่อ-นามสกุล
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : ประเภทสมาชิก
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : พรรคที่สังกัด
ผู้ตั้งกระทู้ถาม : จังหวัดที่สังกัด
ผู้ตอบกระทู้ถาม : ชื่อ-นามสกุล
ผู้ตอบกระทู้ถาม : ตำแหน่ง
รัฐมนตรีประจำกระทรวง
กระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ผู้อภิปราย
ประเภทการอภิปราย
หัวข้อการอภิปราย
วันที่อภิปราย
ผู้ชี้แจง
ชื่อปริญญา
ระดับปริญญา
สาขาวิชา
ภาควิชา
ผู้ประสาทปริญญา
เนื้อเรื่องย่อ
สารบัญ
ปกหน้า
ปกใน
บทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
สารบัญ
บทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
-1. พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุขของราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา 1 และมาตรา 2
-2. พระมาหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาลตามมาตรา 3
-3. พระมหากษัตริย์ทรงดำรงฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ตามมาตรา 8
-4. พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ตามมาตรา 10
-5. พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามมาตรา 11
-6. พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและแต่งตั้งประธานองคมนตรีและองคมนตรี ตามมาตรา 12
-7. พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือ การให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งตามพระราชอัธยาศัยตามมาตรา 13
-8. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและทรงให้ข้าราชการใน พระองค์พ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชอัธยาศัย ตามมาตรา 17
-9. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยมีประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการตามมาตรา 18
-10. การสืบราชสมบัติและการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ ตามมาตร 22
-11. การอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือ องค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 23
-12. พระมหากษัตริย์ทรงตราร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นเป็นกฎหมายโดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ตามมาตรา 42
-13. พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ทรงเห็นชอบด้วย ตามมาตรา 93
-14. พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและพระราชทานคืนมาหรือมิได้พระราชทานคืนมาเมื่อพ้นเก้าสอบวัน ตามมาตรา 94
-15. พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่ออายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุด ตามมาตรา 115
-16. พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งประราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ตามมาตรา 116
-17. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรโดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ตามมาตรา 120
-18. พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่ออายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลง ตามมาตรา 131
-19. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 136
-20. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภารองประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาวุฒิสภา ตามมติของสภา ตามมาตรา 151
-21. พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าฯให้ขยายเวลาสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาตามมาตรา 160
-22. พระมหากษัตริย์ทรงเรียกประชุมรัฐสภา ทรงเปิดและปิดประชุม ตามมาตรา 161
-23. พระมหากษัตริย์ทรงเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญตามมาตรา 162
-24. พระมหากษัตริย์ทรงมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ ตามมาตรา 163
-25. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ได้รับการเสนอชื่อมาพร้อมกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแทนนายกรัฐมนตรีคนเก่าที่ถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 185
-26. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 196
-27. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 199
-28. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีโดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายะรัฐมนตรี ตามมาตรา 201
-29. รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 205
-30. พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการให้รัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ ตามมาตรา 217
-31. พระมหากษัตริย์ทรงตราประราชกำหนดเกี่ยวกับความ มั่นคงให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติ ตามมาตรา 218
-32. พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตราให้ใช้บังคับเช่นพระราชบัญญัติ ตามมาตรา 220
-33. พระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ตามมาตรา 221
-34. พระราชอำนาจในการประกาศใช้และเลิกใช้กฎอัยการศึก ตามมาตรา 222
-35. พระราชอำนาจในการประกาศสงครามเมื่อได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ตามมาตรา 223
-36. พระราชอำนาจในการทำหนังสือสัญญาสันติภาพและสัญญาอื่นกับนานประเทศตามมาตรา 224
-37. พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ ตามมาตรา 225
-38. พระราชอำนาจในการถอดถอนฐานันดรศักดิ์และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามมาตรา 226
-39. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งข้าราชการฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนตำแหน่งปลัดกระทรวงอธิบดีและเทียบเท่า ตามมาตรา 227
-40. กฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการต้องมีรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการตามมาตรา 231
-41. บทกฎหมายที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วให้ประกาศในราชกิจจานุเษกษาตามมาตรา 232
-42. การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีในพระประมาภิไธยพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 233
-43. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้พิพากษาและตุลาการและทรงให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 251
-44. ผู้พิพากษาและตุลาการต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 252
-45. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 255
-46. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและให้ผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมพ้นจากตำแหน่งตามที่ได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ตามมาตรา 273
-47. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและให้ตุลาการในศาลปกครองพ้นจากตำแหน่งตามที่ได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง ตามมาตรา 277
-48. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งประธานศาลปกครองสูงสุด ตามที่ได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการตุลาการศาลปกครองและวุฒิสภา ตามมาตรา 278
-49. พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 297
-50. พรมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตามคำแนะนำของวุฒิสภา ตามมาตรา 312
ปกหลัง