รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (9) สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองบุคคล
1
0
แฟ้มข้อมูล
ประเภททรัพยากร
จำนวนหน้า/ขนาด
210
หน่วยงานที่เผยแพร่
วันที่เผยแพร่
2540
หมวดหมู่
สิทธิ์ในการเข้าถึง
ข้อมูลอ้างอิง
คณิน บุญสุวรรณ (1997). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (9) สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองบุคคล, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (9) สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองบุคคล. Retrieved from: https://hdl.handle.net/20.500.14156/460901.
ผู้แต่ง
สารบัญ
ปกหน้า
สารบัญ
สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองบุคคล
-1. การรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 4
-2. การใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาล กรณีถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ ตามมาตรา 28
-3. การกำหนดหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่ออกมาแล้วเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ตามมาตรา 29
-4. ความเสมอกันในกฎหมายและการห้ามเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามมาตรา 30
-5. การห้ามทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม ตามมาตรา 31
-6. สิทธิของบุคคลในครอบครัว และความเป็นอยู่ส่วนตัว ตามมาตรา 34
-7. เสรีภาพในเคหะสถาน ตามมาตรา 35
-8. เสรีภาพในการเดินทางและการเลือกถิ่นที่อยู่ ตามมาตรา 36
-9. เสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน ตามมาตรา 37
-10. เสรีภาพในการถือศาสนบัญญัติ ตามมาตรา 38
-11. เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและของสื่อมวลชน ตามมาตรา 39
-12. การจัดสรรคลื่นความถี่ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์และวิทยุโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 40
-13. เสรีภาพในทางวิชาการ การเรียน การสอนและการวิจัย ตามมาตรา 42
-14. สิทธิในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ตามมาตรา 43
-15. เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 44
-16. เสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคมหรือสหกรณ์ ตามมาตรา 45
-17. สิทธิของชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในการอนุรักษ์หรือ ฟื้นฟูจารีตประเพณีและศิลปะวัฒนธรรม หรือร่วมจัดการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ตามมาตรา 46
-18. เสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 47
-19. สิทธิของบุคคลในทรัพย์สินและการสืบมรดก ตามมาตรา 48
-20. ข้อจำกัดของการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา 49
-21. เสรีภาพในการประกอบอาชีพและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ตามมาตรา 50
-22. ข้อจำกัดในการเกณฑ์แรงงาน ตามมาตรา 51
-23. สิทธิในการรับบริการทางสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน ตามมาตรา 52
-24. การคุ้มครองเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัวจากการใช้ความรุนแรงตามมาตรา 53
-25. สิทธิของคนชราที่ไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ตามมาตรา 54
-26. สิทธิของคนพิการหรือทุพพลภาพ ตามมาตรา 55
-27. สิทธิของชุมชนในการร่วมบำรุงรักษาดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติตามมาตรา 56
-28. การคุ้มครองผู้บริโภค ตามมาตรา 57
-29. สิทธิที่จะได้รับข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานราชการตามมาตรา 58
-30. สิทธิที่จะได้รับข้อมูล คำชี้แจงและเหตุผลของการดำเนินโครงการที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมตามมาตรา 59
-31. สิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการพิจารณาการปฏิบัติที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามมาตรา 60
-32. สิทธิในการเสนอเรื่องราวร้องทุกข์ ตามมาตรา 61
-33. สิทธิในการฟ้องหน่วยราชการหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจตามมาตรา 62
-34. สิทธิของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามมาตรา 64
-35. สิทธิในการต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการยึดอำนาจการปกครองประเทศนอกวิถีทางรัฐธรรมนูญตามมาตรา 65
-36. การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ตามมาตรา 73
-37. การดูแลให้มีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและจัดระบบงานขอกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ ตามมาตรา 75
-38. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามมาตรา 76
-39. การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นพึ่งตนเอง ตามมาตรา 78
-40. การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสงวนบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ตามมาตรา 79
-41. การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชน และครอบครัว ตามมาตรา 80
-42. การจัดและส่งเสริมการสาธารณสุข ตามมาตรา 82
-43. การกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ตามมาตรา 83
-44. การคุ้มครองดูแลเกษตรกร ตามมาตรา 84
-45. การคุ้มครองแรงงาน ตามมาตรา 86
-46. สิทธิการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบบัญชี รายชื่อของพรรคและแบบแบ่งเขตเขตละคน ตามมาตรา 98
-47. สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนอกภูมิลำเนาที่มีทะเบียนบ้านอยู่ ตามมาตรา 105 วรรคสอง
-48. สิทธิการเลือกตั้งวุฒิสภา ตามมาตรา 121
-49. สิทธิเข้าชื่อกันไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนเพื่อขอให้รัฐสภาพิจารณากฎหมาย ตามมาตรา 170
-50. สิทธิยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของ รัฐสภาตามมาตรา 196
-51. สิทธิยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ ตามมาตรา 199
-52. การนั่งพิจารณาคดีของศาล ตามมาตรา 236
-53. สิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญาในเรื่องการจับโดยต้องมีหมายศาลการแจ้งข้อหา การแจ้งญาติและการนำตัวส่งศาลภายใน 48 ชั่วโมง ตามมาตรา 237
-54. การค้นในที่รโหฐานโดยต้องมีหมายศาลตามมาตรา 238
-55. สิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญาในการขอประกันตนชั่วคราว ตามมาตรา 239
-56. การขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการคุมขังเป็นไปโดยมิชอบ ตามมาตรา 240
-57. สิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญาในการสอบสวนพิจารณาคดีด้วยความรวดเร็วและขอให้ทนายความเข้าฟังการสอบปากคำได้ ตามมาตรา 241
-58. สิทธิของผู้เสียหาย ผู้ต้องหาหรือผู้มีส่วนได้เสียที่จะขอทราบสรุปพยานหลักฐานในคดีที่อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ตามมาตรา 241
-59. การจัดหาทนายความให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ที่ยากจนตามมาตรา 242
-60. สิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคำเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง ตามมาตรา 243
-61. การคุ้มครอง การปฏิบัติที่เหมาะสมและการจ่ายค่าตอบแทนแก่พยานในคดีอาญา ตามมาตรา 244
-62. การคุ้มครอง การปฏิบัติที่เหมาะสมและการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 245
-63. การจ่ายค่าทดแทนและช่วยเหลือจำเลยในคดีอาญาที่ถูกขัง และศาลพิพากษาแล้วไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ตามมาตรา 246
-64. การจ่ายค่าทดแทนและช่วยเหลือผู้ต้องโทษโดยคำพิพากษาไปแล้วแต่ภายหลังมีการรื้อฟื้นคดีแล้วพิพากษาใหม่ว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ตามมาตรา 247
-65. สิทธิที่จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ศาลจะใช้บังคับแก่คดีใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามมาตรา 264
-66. สิทธิที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีระหว่างเอกชนกับหน่วยราชการหรือหน่วยงานองรัฐ หรือระหว่างหน่วยราชการหรือหน่วยงานของรัฐด้วยกัน ตามมาตรา 276
-67. สิทธิที่จะเข้าชื่อกันไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนเพื่อขอให้วุฒิสภาพิจารณาและมีมติถอดถอนบุคคลตามมาตรา 304
ปกหลัง